รีวิวหลักสูตร : สำนักวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์

หมวดหมู่ข่าว: ad-Review หลักสูตร

หลักสูตรของ "สำนักวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์" 
สำนักวิชามาแรงและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานโลกยุคดิจิทัล

สำนักวิชาสำนักวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์ (School of Applied Digital Technology) เปิดสอนระดับปริญญาตรี 5 สาขาวิชา ได้แก่
1. เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนวัตกรรมทางธุรกิจ (Digital Technology for Business Innovation)
2. เทคโนโลยีมัลติมีเดียและการสร้างภาพเคลื่อนไหว (Multimedia Technology and Animation) 
3. วิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering)
4. วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering)
5. วิศวกรรมดิจิทัลและการสื่อสาร (Digital and Communication Engineering)


สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนวัตกรรมทางธุรกิจ (Digital Technology for Business Innovation) 

เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนวัตกรรมทางธุรกิจ เป็นหลักสูตรที่พัฒนาให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของโลกยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล มุ่งเน้นให้ผู้เรียนริเริ่มการเป็นผู้ประกอบการ การทำธุรกิจออนไลน์ การตลาดดิจิทัล การทำสตาร์ทอัพและอาชีพอิสระ การให้บริการทางธุรกิจดิจิทัล (Digital Solution) โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะในการเจรจาต่อรองการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลทางธุรกิจดิจิทัล 

ความโดดเด่นของสาขาวิชานี้ ก็คือ การที่ผู้เรียนได้เริ่มหัดทำธุรกิจจริงตั้งแต่ตั้งแต่ปี 1 โดยเอาความรู้ที่เรียนมาใช้ในการสร้างธุรกิจ จนมาถึงการการผลิตผลิตภัณฑ์ออกมาวางขายในตลาดได้ รวมไปถึงสามารถทำธุรกิจออนไลน์ ทำการตลาดดิจิทัล เป็นผู้ให้บริการทางธุรกิจดิจิทัล เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ หรือจะเป็นผู้ประกอบการเอง โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำธุรกิจ สร้างรายได้ตั้งแต่เรียนกันเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ ข้อดีของสาขาวิชานี้ คือการที่ผู้เรียนสามารถเรียนไป ทำงานไป และมีเงินใช้ เพราะมีธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่เรียน และยังสามารถเรียนจบได้ภายใน 3 ปีครึ่งอีกด้วย หากเรียนตามแผนที่สาขาวางเอาไว้ได้ ซึ่งจบไปแล้ว ก็สามารถทำงานได้หลากหลาย ทั้งนักขายออนไลน์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักการตลาดดิจิทัล Startup นักรีวิว นักเขียนบทความออนไลน์ นักวิเคราะห์และออกแบบระบบสารสนเทศทางธุรกิจ เจ้าของกิจการ นักออกแบบประสบการณ์ผู้บริโภค (CX) นักออกแบบและพัฒนาโมบาย/เว็บแอปพลิชัน เป็นต้น

สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering)

วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เป็นหลักสูตรที่เหมาะกับผู้ที่ชอบการวางแผนและทำงานเป็นระบบ มีสนใจการเขียนโค้ด อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ทำ Application ต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องชอบทางคำนวณด้วย สาขาวิชานี้ผู้เรียนจะต้องได้เรียนหลักสูตรที่ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการและการพัฒนาซอฟต์แวร์คุณภาพสูงทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดเก็บความต้องการ การออกแบบและวิเคราะห์ระบบ การออกแบบสถาปัตยกรรม การทดสอบ การบริหารโครงการ และการควบคุมคุณภาพ มุ่งเน้นการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ ด้วยการเริ่มตั้งแต่การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก เช่น การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน เว็บแอพพลิเคชัน จนถึงระบบซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน เช่นระบบที่อาศัยปัญญาประดิษฐ์ ระบบบริหารทรัพยากรองค์กร 

ความโดดเด่นของสาขาวิชานี้ คือการได้เรียนกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบเจาะลึกทั้งระบบ ทั้งระบบงานขนาดเล็ก เช่น การพัฒนาโมบาย/เว็บแอพพลิเคชัน ไปจนถึงระบบงานขนาดใหญ่ สำหรับองค์กรที่ต้องใช้ทีมงานจำนวนมาก ซึ่งจะได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม รู้จักวิธีการเจรจาต่อรอง และมีรายได้ระหว่างเรียนจากการรับงานจริง ภายใต้การดูแลของรุ่นพี่และคณาจารย์ในสาขาวิชา อีกทั้งยังสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการบริษัทซอฟต์แวร์ของตนเอง (Tech Startup) ผ่านโครงการที่สาขาวิชาได้ทำความร่วมมือกับนักลงทุนและหน่วยงานภายนอกอีกด้วย

ข้อดีของการเรียนที่นี่ คือ การให้ความสำคัญกับกิจกรรมนอกห้องเรียนที่สาขาวิชาจัดขึ้น เช่น กิจกรรม SECodeCamp ที่เน้นการเรียนรู้พื้นฐานการเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ดีและการเขียนโค้ด และกิจกรรม SE-Hackathon ที่ให้ได้เรียนรู้การพัฒนา Software Solution ในช่วงเวลาข้ามคืน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะด้านซอฟต์แวร์ และการทำงานเป็นทีมร่วมกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ภายในสาขาวิชา
 

สาขาวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดียและการสร้างภาพเคลื่อนไหว (Multimedia Technology and Animation)

เทคโนโลยีมัลติมีเดียและการสร้างภาพเคลื่อนไหว เป็นหลักสูตรนี้เหมาะกับผู้ที่สนใจและชื่นชอบและสนใจทางด้านการออกแบบและสร้างสรรค์ ซึ่งสาขาวิชานี้ผู้เรียนจะได้เรียนครอบคลุมการออกแบบและสร้างสรรค์สื่อดิจิทัลหลากหลายประเภท เช่น Computer Graphic and Design 2D & 3D Design and Animation UX/UI Design and Development Film and Video Production และ Game Design and Development เป็นต้น รวมไปถึงการสร้างสื่อออนไลน์ (Online Content Creation) และการสร้างภาพผ่านเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality หรือ VR) รวมถึงการถ่ายภาพ การถ่ายทำโฆษณา/ภาพยนตร์ การสร้างภาพเคลื่อนไหว และมีการปรับหลักสูตรให้ทันสมัยด้วยการเพิ่มเนื้อหาเรื่องการสร้างสื่อออนไลน์ (Online Content Creation) และ ด้านการสร้างภาพผสมผสานเสมือนจริง (Mixed Reality) ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์โลกที่มาแรงมาก ๆ

ความโดดเด่นของสาขาวิชานี้ คือการเน้นการสร้างให้ผู้เรียนเป็น “Design Thinker” ซึ่งนอกเหนือจากการติดอาวุธในทักษะการใช้เครื่องมือ (tools) ในการออกแบบสร้างสรรค์สื่อรูปแบบต่าง ๆ แล้ว ที่นี่จะเน้นการส่งเสริมทักษะกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการทำงานออกแบบของโลกยุคใหม่ ที่ “การออกแบบ” ต้องเป็นมากกว่าความคิดสร้างสรรค์ แต่สามารถนำเอาการออกแบบมาใช้งานและตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้จริง

ข้อดีของการเรียนที่มฟล. คือการได้ลงมือปฏิบัติจริง มีห้องปฏิบัติการของสาขาโดยเฉพาะ มีอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนอย่างครบครัน ทั้งห้องคอมพิวเตอร์ iMac ประสิทธิภาพสูง ห้องบันทึกและตัดต่อเสียง (Sound design) ห้องสร้างภาพเคลื่อนไหว (Animation) ห้องบันทึกวีดิโอเทคนิคพิเศษ (Film and Visual Effect) ห้องสร้างภาพเสมือนจริง (Mixed Reality) ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝีมือกันได้อย่างเต็มที่ 
 

สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering)

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เป็นหลักสูตรที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อยากจะเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ หรือสนใจเรื่อง Ai หรือหุ่นยนต์ต่าง ๆ โดยในเมื่อวิศวกรรมซอฟต์แวร์เน้นการเรียนเขียนโปรแกรม การสร้างซอฟต์แวร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ก็คือการตอบโจทย์การเรียนรู้ทางด้านฮาร์ดแวร์เป็นหลัก และปรับหลักสูตรใหม่ให้เน้นเรื่องของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่ (Emerging Technology) ซึ่งถือเป็นเทรนด์สำคัญของโลก

ความโดดเด่นของสาขาวิชานี้ ก็คือ ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนตามความสนใจและความถนัดของตนเอง โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มวิชาเลือก คือ
1. ฮาร์ดแวร์และระบบฝังตัว (Hardware and Embedded System) ซึ่งจะเรียนรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์ การควบคุมระบบไฟฟ้ากำลัง
2. วิทยาการข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Data Science and Artificial Intelligence) ซึ่งจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบ Ai, Machine Learning
3. การสื่อสารข้อมูลและโครงข่าย (Data Communications and Network) ซึ่งจะเรียนรู้เกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายตามองค์กรต่าง ๆ

ข้อดีของการเรียนที่นี่ คือ การส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลองลงมือทำงานจริง ร่วมกับอาจารย์ในสาขาวิชา ผ่านโครงการทุนวิจัยต่าง ๆ เช่น โครงการ Newton Fund ทุน UK-GCRF ของประเทศอังกฤษ ซึ่งจะเป็นการทำโปรเจคโดยนำ Ai มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับหน่วยงาน ซึ่งนอกจากการได้ทำงานจริง ได้ประสบการณ์แล้ว ยังทำสร้างรายได้ระหว่างเรียนได้อีกด้วย
 

สาขาวิชาวิศวกรรมดิจิทัลและการสื่อสาร (Digital and Communication Engineering) 

วิศวกรรมดิจิทัลและการสื่อสาร เป็นหลักสูตรที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Iots) งานคลาวด์ (Cloud) ความปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security) หรือวิธีการป้องกันข้อมูลดิจิทัลจากการแฮก การโจมตี การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้อนุญาต เป็นต้น โดยที่มฟล. จะเน้นสร้างให้ผู้เรียนเป็นเจ้าของธุรกิจเอง นอกเหนือการตอบโจทย์ตลาดแรงงานโลกแล้ว

ความโดดเด่นของสาขาวิชานี้ คือ การที่ได้เรียนเนื้อหาครอบคลุม 3 ด้าน คือ
1. Internet of Things (IoTs) และ AR, VR, และ MR เช่น ปัญญาประดิษฐ์ในทุกสรรพสิ่ง, บล็อกเชนและการประยุกต์ใช้สมาร์ทคอนแทร็ค, ระบบโรงงานอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม การออกแบบเออาร์ วีอาร์และเอ็มอาร์, การโปรแกรมเกม 3 มิติสำหรับเทคโนโลยีเสมือนจริง ฯลฯ
2. Modern Communications and Communication Systems เช่น เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร, เทคโนโลยีการสื่อสาร,
3. Cloud Applications and Cyber Security เช่น การประยุกต์ใช้งานคลาวด์, ความปลอดภัยไซเบอร์ ฯลฯ

ข้อดีของการเรียนที่นี้ สาขาวิชามีความร่วมมือกับสถานประกอบการเอกชนในโครงการ CWIE (Co-operative Work Integrated Education) ซึ่งสถานประกอบการจะเข้ามามีส่วนร่วมในรายวิชา ตั้งแต่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการคัดเลือกนักศึกษาไปฝึกงาน (โครงการสหกิจศึกษา) โดยผู้เรียนจะมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่สถานประกอบการต่าง ๆ ได้ใช้งานจริง และมีโอกาสที่จะได้รับการทาบทามให้ทำงานต่อ ณ สถานประกอบการนั้น ๆ ได้อีกด้วย
 

ข้อดีของสำนักวิชาเอดีที คือ นักศึกษาจะได้เรียนภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น ได้ฝึกประสบการณ์การทำงานจริง รวมถึงยังได้มีรายได้ระหว่างเรียนไปด้วย เพราะที่นี่มีบริษัทจำลองที่เริ่มก่อตั้งมาจากรุ่นพี่สำนักวิชา ที่เปิดรับงานเองระหว่างเรียนและได้รับค่าตอบแทนจริง ซึ่งในปัจจุบันก็ได้จดทะเบียนนิติบุคคลเป็นบริษัทอย่างถูกต้อง และพร้อมจะรับนักศึกษารุ่นน้องเข้ามาฝึกงาน (สหกิจศึกษา) หรือจะเข้ามารับงานแบบ Part-time สร้างรายได้จริงระหว่างเรียน ทั้งบริษัท MFessolutions (รับสายสาขาซอฟต์แวร์) และบริษัท Image Engine (รับสายสาขามัลติมีเดียฯ) เป็นต้น

นอกจากนั้นสำนักวิชายังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนด้านไอทีจำนวนมาก ที่พร้อมจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เข้าไปฝึกประสบการณ์ ยกตัวอย่าง บ.ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ การพัฒนาระบบงาน Application ที่ได้มีการมาจัดตั้งสาขาที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เข้าไปฝึกประสบการณ์ รวมถึงยังเข้ามาเป็นวิทยากรให้ใน class เรียนอีกด้วย

ข้อดีสำคัญอีกข้อของการเรียนที่นี่คือ การมีทุนการศึกษาที่จะช่วยสนับสนุนผู้เรียนทั้งทุนจากหน่วยงานภายนอก ภาครัฐและองค์กรเอกชนด้านไอที ทุนจากโครงการวิจัยของอาจารย์ภายในสำนักวิชา ทุนแลกเปลี่ยนต่าง ๆ โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา มีทุนสนับสนุนภายในสำนักวิชากว่า 400 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาได้พัฒนาศักยภาพและทักษะได้อย่างเต็มที่ โดยที่ค่าใช้จ่ายไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ รวมถึงยังช่วยให้นักศึกษามีรายได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบกันเลยทีเดียว

ผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ Admission@MFU หรือเพจของสำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศได้ที่ ADTschool MFU

  • 6864 ครั้ง