หลักสูตร “สำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร”
หลักสูตรที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนไทยมากที่สุด
สำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร (School of Agro-Industry) เปิดสอนในระดับปริญญาตรี ซึ่งเปิดสอน 2 สาขาวิชา คือ
1. นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร (Innovative Food Science and Technology)
2. โลจิสติกส์เกษตรและอาหาร (Agri-Food Logistics)
สาขาวิชานวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร (Innovative Food Science and Technology)
นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร ถือเป็นหลักสูตรนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ที่ผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร ครอบคลุมการผลิตตั้งแต่วัตถุดิบสู่ผู้บริโภค พร้อมสร้างนวัตกรรมที่ ทันสมัยและยั่งยืน ผ่านการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ เลือกเรียนตามความสนใจได้ 2 ด้าน คือ การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมอาหารและความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการและสุขภาพ โดยเป็นหลักสูตรที่เหมาะกับคนที่ชอบเรียนวิทยาศาสตร์ มีความสุขกับการเข้าห้อง Lab ชอบการคิดวิเคราะห์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพราะหลักสูตรนี้จะเน้นการนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับวัตถุดิบทางการเกษตร เพื่อผลิตและแปรรูปให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารขึ้นมา รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ เพื่อให้คุณค่าทางโภชนาการและมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ความโดดเด่นของหลักสูตรนี้ คือ เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานสากล เป็น 1 ใน 4 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองหลักสูตรจาก IFT หรือ Institute of Food Technologist จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรนานาชาติที่สนับสนุนการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารและสร้างเครือข่ายทั่วโลกในสาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร ซึ่งผู้เรียนจะได้เรียนกันตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการแปรรูป การตรวจสอบคุณภาพ การพัฒนานวัตกรรมอาหาร อาหารเพื่อสุขภาพ การบริหารจัดการและการตลาด เพื่อให้มีศักยภาพที่จะสามารถเป็นผู้ประกอบการได้
ข้อดีของการเรียนที่นี่ คือการที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ การค้าชายแดน รวมถึงมีพืชเฉพาะถิ่นที่น่าสนใจ คือ สับปะรด (ภูแล/นางแล) ข้าว ชา กาแฟ โดยเฉพาะชาและกาแฟ ที่จังหวัดเชียงรายถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกชา และกาแฟพันธ์อาราบิก้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว ดังนั้น ผู้เรียนจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริงอย่างเข้มข้น อีกทั้ง ยังสามารถเรียนจบได้ใน 3 ปีครึ่ง และเลือกสถานประกอบการเพื่อฝึกปฏิบัติจริงตามความสนใจ ทั้งในและต่างประเทศในภาคเรียนสุดท้ายได้อีกด้วย
ดังนั้น จึงจะเห็นว่าหลักสูตรนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหารเป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานสากล และมีการเรียนการสอนที่ครอบคลุม ทำให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย เช่น นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ นักออกแบบอาหาร ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารสมัยใหม่ เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ, Plant-based, Clean Label และ Sustainable Food ที่ปรึกษาด้านโภชนาการและสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหาร หรือนักวิเคราะห์และนักการตลาดด้านอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น
สาขาวิชาโลจิสติกส์เกษตรและอาหาร (Agri-Food Logistics)
โลจิสติกส์เกษตรและอาหาร เป็นหลักสูตรที่เน้นการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับการจัดการโลจิสติกส์ เพื่อแก้ปัญหาผลิตผลเกษตรและอาหารตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ รวมถึงการเรียนรู้หลักการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการจัดการผลิตผลให้มีคุณภาพและความปลอดภัยตั้งแต่แหล่งปลูก การเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม การใช้เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและบรรจุภัณฑ์ เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าเกษตรและอาหาร อีกทั้งพัฒนาทักษะด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสำหรับสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการขนส่ง ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพของสินค้า ดังนั้น หลักสูตรนี้จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบเรื่องเทคโนโลยีและการบริหารจัดการด้วย
ความโดดเด่นของสาขาวิชานี้ คือ สามารถเลือกเรียนแบบแผนปกติ กับแผนการเรียนควบปริญญาตรี 2 ปริญญา ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นที่แรกและหลักสูตรเดียวในเมืองไทย โดยใช้เวลาเรียน 4 ปี เท่ากับหลักสูตรปกติ แต่มีการเรียนเกี่ยวกับการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานเพิ่ม 30 หน่วยกิตจากหลักสูตรปกติ โดยผู้เรียนที่เลือกเรียนแบบควบ 2 ปริญญา จะได้รับปริญญาใน 2 หลักสูตร คือ
1. วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาโลจิสติกส์เกษตรและอาหาร
2. บริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
ความโดดเด่นของการเรียนที่มฟล คือ มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้มีความสามารถทางภาษาและการสื่อสาร ซึ่งภาษาอังกฤษมีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ (ขนส่ง) ซึ่งทำให้มีข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจส่งออกกับต่างประเทศในฐานะผู้ประกอบการ รวมถึงการทำงานในองค์กรที่ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ รวมถึงเน้นการปฏิบัติจริง มีแหล่งฝึกปฏิบัติให้ได้ฝึนฝนกันอย่างเต็มที่ ทั้งในมหาวิทยาลัยและนอกมหาวิทยาลัย เช่น โครงการพลวง ไร่ PB Valley สิงห์ปาร์ค เป็นต้น
ดังนั้น จึงจะเห็นว่าหลักสูตรโลจิสติกส์เกษตรและอาหารเป็นหลักสูตรมีการเรียนการสอนที่ครอบคลุมตลอดโซ่อุปทาน ทำให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย เช่น หัวหน้างานในโรงงานอุตสาหกรรมด้านเกษตรและอาหาร ในฝ่ายผลิต ควบคุมคุณภาพ วิจัยและพัฒนา เจ้าหน้าที่ตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร เช่น เจ้าหน้าที่ด้านการจัดซื้อ ด้านการวางแผน การนำเข้าและส่งออก การจัดการคลังสินค้า การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน เป็นต้น ผู้ประกอบการอิสระ หรือเจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร หรือนักวิชาการ/นักวิจัยด้านอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และโลจิสติกส์
ข้อดีของการเรียนสำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร คือทุก ๆ ปี ที่นี่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนในต่างประเทศ ในโครงการ ASEAN International Mobility for students (AIMS) จำนวน 10 ทุน (ทุนละ 100,000 บาท) และทุนรัฐบาลญี่ปุ่น Scholarship for Short-term Study in Japan (JASSO) ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนและการใช้ชีวิตในต่างแดน
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสมัครเข้าศึกษาสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ Admission@MFU หรือที่เพจของสำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตรได้ที่ Agro-Industry MFU